วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บ็อบ มาร์เลย์ : ผู้กำเนิดเร็กเก้ บทเพลงแห่งเสรีภาพ

0 ความคิดเห็น


โรเบิร์ต บ็อบ เนสตา มาร์เลย์ (อังกฤษ: Robert "Bob" Nesta Marley) นักดนตรีชาวจาเมกา เกิดเมื่อวันพุธ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 เป็นบุตรชายคนเดียวของ นาง ซีเดลล่า กับ ร้อยเอก นอร์วัล มาร์เลย์ ในชุมชนคนผิวดำ เมืองเชนต์แอนน์ ประเทศจาเมกา มีชื่อเต็มว่า เขาใช้ชีวิตในวัยเด็ก และเติบโตท่ามกลางชุมชนทาสในครอบครัวที่แตกแยก ปี พ.ศ. 2500 มารดาของเขาอพยบครอบครัวเข้าสู่เมืองหลวง คือ กรุงคิงสตัน อาศัยอยู่ในสลัม เทรนช์ทาวน์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของคนยากจน มีวิถีชีวิตตามความเชื่อดั่งเดิมของคนดำ คือเชื่อว่าตนเป็นลูกหลานของกษัตริย์โซโลมอน และ เป็นชนชาวยิวพลัดถิ่น รอวันกลับสู่แผ่นดินของตน ถิ่นนี้เป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมและ ลัทธิรัสตาฟา เรียนิสม์ (rastafarianism) ชีวิตวัยเด็กบ็อบมีนิสัยเห็นแก่ตัว แต่ไม่มีนิสัยลักขโมยแบบเด็กสลัมทั่วไปเขารักเพื่อน และทำทุกอย่างเพื่อเพื่อน อายุ 17 ปีเขาก็เริ่มทุ่มเทให้กับการร้องเพลงฝึกฝนอย่างจริงจัง เริ่มจากการร้องในโรงภาพยนตร์ และไช้เวลาหลังจากเลิกเรียนหัดร้องเพลงกับเพื่อนๆแทนการทำการบ้าน เหมือนพระเจ้าประทานโอกาสมาสู่เขา เมื่อได้มีโอกาสเรียนรู้ด้านดนตรี จาก โจฮิกก์ส ศาสตราจารย์ข้างถนนที่มีความสามารถทางดนตรีอย่างเยี่ยมยอด เขาเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับดนตรีอย่างจริงจัง

หลายคนคงเคยได้ ยินชื่อ บ็อบ มาร์เลย์ (Bob Marley) หรือบางครั้งอาจจะเคยฟังเพลงผ่านๆโดยไม่รู้ว่าเสียงที่เปล่งออกมาจากชายผู้ นี้มีความหมายและนัยยะบางอย่างแฝงเร้นซ่อนเอาไว้ แม้ดนตรีลักษณะนี้จะมีจังหวะที่สนุกสนาน แต่ใครสักกี่คนจะรู้ว่าข้างในนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่นและโหยหาซึ่งเสรีภาพ

บ็อบ มาร์เลย์ มีชื่อจริงว่า โรเบิร์ต เนสต้า มาร์เลย์ เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1945 ในเขตชนบทของประเทศจาไมก้า สนใจและลุ่มหลงในดนตรีพื้นบ้าน(เร็กเก้)ของตนเอง โดยดนตรีชนิดนี้เป็นที่นิยมในพวกผู้ใช้แรงงานผิวดำในประเทศ โดยเนื้อเพลงส่วนใหญ่กล่าวถึงการแสวงหาเสรีภาพ สะท้อนมุมมองทางด้านการเมือง การแบ่งแยกสีผิวและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม มาร์เลย์ได้ทำให้ดนตรีเร็กเก้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเขาเองถูกเรียกว่า ราชาเร็กเก้ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

มาร์เลย์มีเพียงกีตาร์และฮาร์โม นิการ์คู่ใจ ขับบรรเลงเพลงเรียกร้องเสรีภาพ เรียกร้องถึงจิตวิญญาณความเป็นธรรม และเป็นปากเป็นเสียงให้กับผู้ใช้แรงงานผิวสี หรือพลเมืองชั้นสองในสังคม

บทเพลงของ บ็อบ มาร์เลย์หลากหลายเพลง ถูกขบวนการคนผิวดำและต่อต้านการเหยียดสีผิวนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการ แสดงออกถึงประเด็นทางสังคม กลุ่มขบวนการเหล่านี้คือกลุ่มหรือลัทธิรัสตาฟารี *(Rasta Farians) ที่มีสีประจำคือ แดง เหลือง เขียว สีทั้งสามสีนี้เราสามารถพบเห็นได้ในเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหลากหลายชนิดของ ผู้คนในสังคมผู้ชื่นชอบดนตรีเร็กเก้ เพราะดนตรีเร็กเก้กับลัทธิกลุ่มรัสตาฟารี (Rasta Farians) แทบจะกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน ความหมายของสีทั้งสามอย่างนี้ก็แผกแตกต่างกันออกไป โดยสีแดงมีความว่า พระอาทิตย์ สีเหลืองมีความว่าผืนดิน สีเขียวมีความหมายว่าต้นไม้และความอุดมสมบูรณ์ และเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของผู้ชื่นชอบดนตรีเร็กเก้ คือการถักผมทรง Dread-lock (ทรงผมทรงหนึ่งที่เป็นที่นิยมใหมู่คนแคริบเบียน)

ที่เป็น สัญลักษณ์และลืมไม่ได้เลยสำหรับผู้นิยมดนตรีเร็กเก้เห็นจะเป็น กัญชา โดยลัทธิรัสตาฟารีมีความเชื่อว่า กัญชาเป็นสมุนไพรเพื่อทำสมาธิและใช้ในการเข้าพิธีกรรมในศาสนา ทุกครั้งเมื่อมีการทำพิธีกรรมต่างๆ ชาวรัสตาฟารีจะต้องเสพกัญชาก่อนเสมอ


มาร์เลย์ตั้งวงดนตรีขึ้นมาชื่อว่า "บ็อบ มาร์เลย์ แอนด์ เดอะ เวลเลอร์ส" (Bob Marley and the Wailers) ในปี 1964 นับเป็นศิลปินเพลงเร็กเกคณะแรกที่โด่งดังไปทั่วโลก

บทเพลงเร็กเก้ เฟื่องฟูมากที่สุดในทศวรรษที่ 1970 โดยการตระเวนเล่นคอนเสิร์ตอย่างสม่ำเสมอและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของบ็อบ มาร์เลย์

ในปี 1975 บ็อบมาเลย์ได้แต่งงานกับริต้า พร้อมๆกับการจัดคอนเสิร์ตที่เกือบทำให้เขาจากโลกนี้ไป โดยก่อนหน้าคอนเสิร์ต 2 วัน มีกลุ่มมือปืนมาดักยิงตัวเขา ริต้า และผู้จัดการวงดนตรี แต่โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต เขายังคงเดินหน้าแสดงคอนเสิร์ตต่อไปทั้ง ๆ ที่ใช้ผ้าคล้องแขนกับคอเพราะบาดเจ็บ

ปี 1976 บ็อบ มาเลย์ต้องงดรายการคอนเสิร์ตทัวร์ทั่วยุโรป เนื่องจากตรวจพบเป็นมะเร็งที่เท้าขวา อันเนื่องมาบาดแผลระหว่างการเล่นฟุตบอลในอดีตแล้วละเลยไม่รักษา แต่บ็อบก็สัญญากับตัวเองว่า เมื่ออาการดีขึ้น เขาจะกลับมาแสดงคอนเสิร์ตทันที

ในคอนเสิร์ต One Love ที่ จาไมก้าเมื่อ 22 เมษายน 1978 บนเวที บ็อบได้สร้างประวัติศาสตร์ไว้ โดยการให้ประธานาธิบดี และผู้นำฝ่ายค้านขึ้นไปจับมือกัน

เหตุการณ์นี้ส่ง ผลให้เขาได้รับรางวัล The United Nations' Peace Medal ในเดือนมิถุนายน 1978

ปี 1980 บ็อบเป็นผู้นำในการเฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพของซิมบับเวย์ และกันยายนของปีเดียวกันนี้คณะแพทย์ตรวจพบว่ามะเร็งลุกลามไปยังปอดและสมอง ได้ลงความเห็นกันว่าอีกไม่นานราชาเร็กเก้คงจากไป หมดหวังที่จะเยียวยารักษา แต่มาร์เลย์ก็ยังใจแข็งบินไปเล่นคอนเสิร์ตที่ Stanley Theatre นครพิตสเบิร์ก โดยไม่รู้ตัวว่านั่นจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของตัวเอง

บ็อบ มาเลย์อยากจะกลับจาไมก้าบ้านเกิด แต่ไปไม่ไหว จึงแวะพักที่นครไมอามี และจากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 1981 ด้วยวัยเพียง 36 ปีเท่านั้น

ศพถูกนำกลับมา ฝังไว้ที่บ้านเกิดในจาไมก้า

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Rasta

0 ความคิดเห็น

"Rasta" เป็นคำที่ใช้เรียก คนที่หลงใหลในลัทธิ Rastafarianism Rasta มาจากชื่อเต็มๆว่า Rastafari เป็นลัทธิและปรัชญาความ เชื่อหนึ่ง ที่มีอดีตจักรพรรดืไฮลี เซลาซซี (Haile Selassie) แห่ง เอธิโอเปียเป็นองค์ศาสดา แต่ ลัทธินี้มีต้นกำเนิดในประเทศจาไมกา ในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวไร่ ชาวนา คนผิวดำ ในยุคปี 1930 ผู้ที่นับถือมีความเชื่อว่า อดีตจักรพรรดิ ไฮลี เซลาซซี แห่งเอธิโอเปีย คือ พระเจ้าที่จุติมาเกิดเป็นมนุษย์ ที่จะมาปลดปล่อยคนแอฟริกันและคนดำจากความเป็นทาส และนำวพกเขาไปสู่ความยุติธรรมในสังคม

ด้วย เหตุนี้เอง เราจึงเห็นชาว Rasta หรือผู้ที่หลงใหลดนตรีเรกเก้ ชอบใช้สีเขียว แดง เหลือง เป็นส่วนประกอบของเครื่องแต่งกาย เนื่องจากเป็นสีของธงชาติประเทศเอธิโอเปียนั่นเอง ลัทธิ และปรัชญาความเชื่อแบบ Rastafari ได้แพร่หลายไปหลายๆ ที่ในโลกโดยผ่านเพลงเรกเก้ของ Bob Marley นักดนตรี นักแต่งเพลงผู้หลงใหลในลัทธิ Rastafari

Rastafari จึง มีอิทธิพลต่อนักดนตรีแนวเรกเก้ เป็นจำนวนมากในปี 1970-1980 สัญลักษณ์ ของลัทธินี้ นอกจากสีธงชาติของเอธิโอเปียแล้ว ก็มีทรงผมถัก dreadlock และกัญชา

เป็นที่เชื่อกันว่า ความยาวของ dreadlock เป็นสิ่งที่ชี้วัดความเจนจัด ความปราดเปรื่อง และมากด้วยความรู้ และยังบอกถึงระยะเวลา หรือความยาวนานที่ Rastaman คนนั้น ได้หันมานับถือลัทธินี้
เนื้อหา ของเพลงเรกเก้ มีความหลากหลายตั้งแต่เรื่องของ การพยายามที่จะให้กัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฏหมาย การต่อต้าน ระบบทุนนิยม การเหยียดสีผิว ไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์ระบอบการเมือง การส่งเสิรมสันติภาพในจาไมกา และต่อต้านสงครามของ Bob Marley

คำ ว่า "Irie" ที่ไปรากฏบนตู้โทรศัพท์ และตามที่ต่างๆ มั่วเมือง เมื่อตอนระเบิดกรุงเทพ
เมื่อวันสิ้นปีที่แล้ว และทำให้ตำรวจปวดหัวตีความไปกันใหญ่ นึกว่าเป็น IRK
นั้น ก็เป็นหนึ่งในคำศัพท์ของชาว Rastafarian นั่นเอง แปลว่าอะไรที่มัน ดี เจ๋ง

Rastafarianism

1 ความคิดเห็น


"Rasta" เป็นคำที่ใช้เรียก คนที่หลงใหลในลัทธิ Rastafarianism Rasta มาจากชื่อเต็มๆว่า Rastafari
เป็น ลัทธิและปรัชญาความเชื่อหนึ่ง
ที่มีอดีตจักรพรรดืไฮลี เซลาซซี (Haile Selassie)
แห่งเอธิโอเปียเป็นองค์ศาสดาแต่ลัทธินี้มีต้นกำเนิดในประเทศ จาไมกา ในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวไร่ ชาวนา คนผิวดำ ในยุคปี 1930 ผู้ที่นับถือมีความเชื่อว่า
อดีตจักรพรรดิ ไฮลี เซลาซซี แห่งเอธิโอเปีย คือพระเจ้าที่จุติมาเกิดเป็นมนุษย์ ที่จะมาปลดปล่อยคนแอฟริกันและคนดำจากความเป็นทาส และนำพวกเขาไปสู่ความยุติธรรมในสังคม ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงเห็นชาว rasta หรือผู้ที่หลงใหลดนตรีเรกเก้ ชอบใช้สี
เขียว เหลือง แดง เป็นส่วนประกอบของเครื่องแต่งกาย เนื่องจากเป็นสีของธงชาติประเทศเอธิโอเปียนั่นเอง ลัทธิและปรัชญาความเชื่อแบบ Rastafari ได้แพร่หลายไปหลายๆ ที่ในโลก โดยผ่านเพลงเรกเก้ของ Bob Marley นักดนตรี นักแต่งเพลงผู้หลงใหลในลัทธิ Rastafari ชาว rasta ส่วนมากจะไม่นิยมบริโภคเนื้อสัตว์และจะถือศีล Rastafari จึงมีอิธิพลต่อนักดนตรีแนว reggae เป็นจำนวนมากในปี 1970-1980 สัญลักษณ์ของลัทธินี้ นอกจากธงชาติเอธิโอเปียแล้ว ก็มี กัญชา และทรงผม Dreadlock เป็นที่เชื่อกันว่า ทรงนี้ได้รับอิทธิพลมาจากสิงโต มันคือศักดิ์และศรีของความเป็น Rasta ขนาด ความยาว ของทรง Dreadlock เป็นสิ่งที่ชี้วัดความเจนจัด ปราดเปรื่อง มกด้วยความและ ยังบอกถึง ระยะเวลา หรือความยาวนาน ที่ Rastaman คนนั้นได้หันมานับถือลัทธินี้ กล่าวได้ว่า ขนาดช่วงสุดท้ายของชีวิตของ Bob Marley คือ มะเร็งในสมอง
ในการที่จะ รักษานั้น ต้องตัดผมออกเพื่อรักษา แต่นั่น....ไม่ใช่ทางเลือกของ Bob Marley เขายอมตายเพื่อที่จะคงศักดิ์และศรี ของความเป็น Rasta เอาไว้ แนวดนตรี reggae มักถูกนำไปเชื่อมโยงกับการสูบกัญชาเสมอ ขนาดเจ้าพ่อเพลง reggae อย่าง Bob marley ในสมัยยังมีชีวิตอยู่ ยังใช้เวลาหลายปี เพื่อรณรงค์ให้กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในฐานะสมุนไพรชนิดหนึ่ง เนื้อหาของเพลงมีความหลากหลาย ตั้งแต่เรื่อง การพยายามที่จำทำให้กัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย ดารต่อต้านระบบทุนนิยม การเหยียดสีผิว จนกระทั่ง การวิพากษ์วิจารณ์การเมือง การส่งเสริมสันติภาพในจาไมก้า และต่อต้านสงครามของ Bob Marley คำว่า "Irie" ที่ไปปรากฏบนตู้โทรศัพท์ และตามที่ต่างๆ ทั่วเมือง เมื่อตรั้งที่เกิดระเบิดในกรุงเทพ ในวั้นที่ 31 ธค. 2549 และทำให้ตำรวจต้องปวดหัว จนตีความว่า เป็นฝีมือของพวก IPK นั้นก็เป็น หนึ่ง ในคำศัพท์ของชาว Rastafarian
ซึ่งคำว่า Iris ได้ แปลว่า อะไรที่มันดี เจ๋ง
สัญลักษณ์ของ reggae คือ rasta
rasta ประกอบไปด้วย สี 3 สี และ ของ อีก 3 อย่าง คือ สีเขียว คือ โลก หรือ ต้นไม้
สีเหลือง คือ อวกาศ หรือ ดิน
สีแดง คือ ดวงอาทิตย์
จะแดงจะเหลืองจะขาวจะดำ ก็ต่างแค่เพียงผิวพรรณ
จะพูดภาษาอะไรยังไง ก็ต่างแค่เพียงถ้อยคำ จะเขตจะแขวงจะดินจะแดน ที่แบ่งแยกกันและกัน ทั้งหมด นั้นก็ โลกเดียวกัน
History of Reggae
Reggae คือเพลงประเภทพัฒนาในเกาะจาเมกาในล่าสุด1960s เทอมบางครั้งที่ถูกใช้อย่างกว้างขวาง ส่วนมากจะอ้างถึงชนิดของเพลง Jamaican , รวมถึง ska, rocksteady และ Dubชี้บอกสไตล์ที่ จำเพาะเจาะจง ซึ่งเกิดหลังจากการพัฒนาของ rocksteady
ในการนี้ reggae มี 2 sub genres คือ roots reggae (ที่เป็นต้นฉบับ reggae ) และ dancehall reggae ซึ่งเป็นสิ่งซึ่งก่อให้เกิดล่าสุดในปี 1970s
Reggae ถูกค้นพบบนสไตล์จังหวะ characterized โดยสม่ำเสมอสับบนจังหวะการเต้นหลัง
รู้ ว่าเป็น skank จังหวะการเต้นช้ากว่าโดยทั่วไป สิ่งนั่นที่ค้นพบในตัวตน ต้นแบบของ reggae , ska และrocksteady Reggae กับการเคลื่อนไหว กับ สิ่งซึ่งมีอิทธิพลกับนักดนตรี reggaeเรื่องที่เด่นจำนวนมากมายใน 1970s และ1980s เพลง Reggae เกี่ยวกับหัวข้อจำนวนมากมายรวมถึงเรื่อง ศรัทธา, ความรัก, เรื่องเพศ และเนื้อหาเกี่ยวกับสังคมโดยกว้าง...

กำเนิดเรก เก้ --*
แหล่งกำเนิดของ Reggae อยู่ในชาวแอฟริกาดั้งเดิม และเพลงเกี่ยวกับทะเลคาริบเบียน จังหวะแห่งสหรัฐอเมริกา และความเศร้าหมอง และ Jamaican ska และrocksteady ใน1963 เพื่อบันทึก เสียง และประกอบด้วยเพลงที่เป็นต้นฉบับ Mittoo ได้รับความช่วยเหลือจากมือกลอง Lloyd Knibbs และใส่ จังหวะ ska ดั้งเดิมตีเข้าไปใน reggae โดยลดลงจังหวะ ของดนตรีลง Bob Marley ผู้ซึ่งเล่นบทบาทสำคัญของเพลง reggae ระดับโลก
ska, rocksteady, และ nyabinghi. โดยล่าสุด1960sreggae ได้เปิด ในสหราชอาณาจักร โดย สถานีวิทยุ John Peel's radioคำว่า reggae อาจจะใชครั้งแรกในแบบ ของ ska เช่นวง Toots and the Maytals ในปี 1968 อัลบั้มของเขา ชื่อ Do the Reggay ใช้ภาษาแสลงของโสเภณี หรือ สิ่งที่เกิดครั้งแรกจาก Regga ซึ่งเป็นภาษา Bantu จากทะเลสาบ Tanganyika(Lake Tanganyika) ...!!!